เพื่อให้การจ่ายภาษีสะดวกรวดเร็วมากขึ้น กรมสรรพากรได้จัดทำช่องทางในการจ่ายภาษีที่หลากหลายขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 ที่ผ่านมา วันนี้ OCEAN LIFE ไทยสมุทร จะพาทุกคนไปรู้จักกับช่องทางการจ่ายภาษีต่าง ๆ พร้อมค่าบริการ และเวลาทำการของแต่ละช่องทาง นอกจากนั้น ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับผ่อนจ่ายภาษี สำหรับผู้ที่มียอดชำระสูง และต้องการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินอีกด้วย
อัปเดต 6 ช่องทางการจ่ายภาษีออนไลน์
1. จ่ายด้วย QR Code
ช่องทางนี้จะแสดง QR Code ที่ผู้เสียภาษีสามารถสแกนจ่ายด้วยสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่ได้เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันธนาคารต่าง ๆ โดยในปัจจุบันมีธนาคารให้บริการจำนวน 12 แห่ง เปิดให้บริการถึงเวลา 22.50 น. ถือเป็นช่องที่สะดวกและรวดเร็ว และไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ระบบของช่องทาง QR Code ไม่อนุญาตให้สั่งพิมพ์ QR Code ลงบนกระดาษได้ อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการจ่ายภาษีภายหลังนัก
2. จ่ายด้วย E-payment
สำหรับช่องทางนี้ ผู้เสียภาษีจะต้องสมัครบริการ E-payment กับธนาคารที่ร่วมเป็นหน่วยชำระภาษีเสียก่อน โดยในปัจจุบันมีธนาคารให้บริการจำนวน 11 แห่ง (เช็กได้ที่นี่) เมื่อผู้เสียภาษีคลิกเลือกธนาคารที่สมัครบริการ E-payment แล้ว ระบบจะนำไปสู่หน้าจอของธนาคารดังกล่าว เพื่อดำเนินการจ่ายภาษีต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เลือกจ่ายด้วยช่องทางนี้อาจต้องเสียค่าบริการเพิ่ม เนื่องจากมีหลายธนาคารที่คิดค่าบริการจำนวน 15 บาท
ช่องทาง E-Payment เปิดให้บริการเวลา 06.00 - 22.00 น. แต่มีบางธนาคารที่เวลาให้บริการแตกต่างออกไป
3. จ่ายด้วยบัตรเครดิต (Internet Credit Card)
ช่องทางนี้เหมาะกับผู้ที่มีบัตรเครดิต แต่มีข้อจำกัด เนื่องจากในปัจจุบัน มีธนาคารที่เข้าร่วมรายการเพียงแค่ 5 แห่งเท่านั้น (เช็กได้ที่นี่) และบางธนาคารคิดค่าบริการ 1% ด้วย นอกจากนั้น เวลาให้บริการของแต่ละธนาคารจะต่างกัน ผู้เสียภาษีจึงจำเป็นต้องตรวจสอบก่อนทำการจ่ายภาษี
4. จ่ายด้วย ATM on Internet
ช่องทางนี้มีเพียงแค่ธนาคารเดียวเท่านั้นที่เข้าร่วมรายการ (เช็กได้ที่นี่) แต่ไม่คิดค่าบริการเพิ่ม เหมาะกับผู้ที่เปิดบัญชีไว้กับธนาคารดังกล่าว และเปิดให้บริการเวลา 06.00 - 22.00 น.
ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายภาษีด้วยช่องทาง E-payment, บัตรเครดิต และ ATM on Internet จะถูกส่งจากกรมสรรพากรไปยังธนาคารโดยตรง เมื่อผู้เสียภาษียืนยันการทำรายการของระบบชำระเงินของธนาคารแล้ว ธนาคารจะแจ้งผลการทำรายการ เช่น ผลการโอนเงิน การยกเลิกการทำรายการ เป็นต้น ส่งให้กรมสรรพากรแบบ Real Time
5. จ่ายด้วยบัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (Tax Smart Card)
เฉพาะผู้ถือบัตร Tax Smart Card เป็นช่องทางที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากบัตรจะถูกกำหนดให้ใช้ชำระภาษีได้เฉพาะที่กรมสรรพากรเท่านั้น อีกทั้งยังมีรหัสเฉพาะบัตรที่ผู้อื่นไม่สามารถนำไปใช้ได้
อย่างไรก็ตาม การจ่ายภาษีด้วยช่องทาง Tax Smart Card จะสามารถทำได้เฉพาะนิติบุคคลเท่านั้น และในปัจจุบันมีธนาคารที่เข้าร่วมรายการเพียงแค่ธนาคารเดียว (เช็กได้ที่นี่) โดยเปิดให้บริการเวลา 06.00 - 22.00
6. จ่ายด้วย Pay-in Slip ผ่านช่องทางต่าง ๆ
ข้อดีของการเลือกจ่ายภาษีด้วยช่องทางนี้ คือ สามารถดาวน์โหลดไฟล์ PDF ที่มีรายละเอียดของผู้เสียภาษี ประกอบไปด้วย เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขประจำตัวประชาชน รหัสควบคุม และจำนวนเงินที่ต้องจ่าย พร้อมทั้ง QR Code และ Bar Code ที่ใช้ในการสแกนจ่ายภาษีด้วย Application ธนาคารต่าง ๆ ได้ อีกทั้งยังสามารถพิมพ์ลงกระดาษ เพื่อนำไปจ่ายทางตู้ ATM, Internet Banking, Phone Banking, Tele Bangking และ Counter Service ต่าง ๆ โดยสามารถเช็กธนาคารและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เข้าร่วมรายการได้ ดังนี้
- Application ธนาคารและหน่วยงานต่าง ๆ คลิกที่นี่ เปิดให้บริการถึงเวลา 22.50 น. และส่วนใหญ่ไม่คิดค่าบริการ
- ตู้ ATM ของธนาคารต่าง ๆ คลิกที่นี่ เปิดให้บริการถึงเวลา 22.50 น. โดยมีทั้งธนาคารที่ไม่คิดค่าบริการและคิดค่าบริการประมาณ 10-15 บาท
- Internet Banking ของธนาคารต่าง ๆ คลิกที่นี่ เปิดให้บริการถึงเวลา 22.50 น. โดยมีทั้งธนาคารที่ไม่คิดค่าบริการและคิดค่าบริการตั้งแต่ 5-50 บาท
- Phone Banking ของธนาคารต่าง ๆ คลิกที่นี่ โดยคิดค่าบริการประมาณ 10-15 บาท
- Tele Banking ของธนาคารต่าง ๆ คลิกที่นี่ ไม่คิดค่าบริการ
- Counter Service ต่าง ๆ คลิกที่นี่ โดยเปิดให้บริการ โดยคิดค่าบริการประมาณ 10-20 บาท
วิธีการผ่อนจ่ายภาษี ปี 2023
ถ้ามีภาษีที่ต้องจ่ายจำนวนตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นภงด. 90/91 หรือ ภงด.94 ผู้เสียภาษีมีสิทธิ ขอผ่อนจ่ายภาษีได้เป็น 3 งวดเท่า ๆ กันเท่านั้น โดยผู้เสียภาษีสามารถติดต่อขอผ่อนจ่ายได้ที่ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา โดยมีหลักปฏิบัติดังนี้
- งวดที่ 1 จ่ายพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภายในช่วงเวลาที่กรมสรรพากรกำหนด เช่น กรมสรรพากรกำหนดให้ยื่นแบบ ภงด.94 ปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. - 30 ก.ย. ดังนั้น ต้องจ่ายภาษีงวดที่ 1 ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
- งวดที่ 2 จ่ายภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ต้องชำระงวดที่ 1
- งวดที่ 3 จ่ายภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ต้องชำระงวดที่ 2
ถ้าผู้เสียภาษีมิได้จ่ายภาษีภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ผู้เสียภาษีจะหมดสิทธิผ่อนจ่ายภาษี และต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนของเงินภาษีงวดที่เหลือ
แม้ว่าช่องทางการจ่ายภาษีในปัจจุบันจะช่วยอำนวยความสะดวกได้มากแค่ไหน แต่หลาย ๆ คนก็ยังต้องการลดหย่อนภาษีอยู่ดี ดังนั้น OCEAN LIFE ไทยสมุทรขอแนะนำให้ทุกท่านลองคำนวณภาษีก่อนยื่นภาษีจริง ด้วยโปรแกรมคำนวณภาษีฉบับปรับปรุงใหม่ ตรงกับหลักเกณฑ์การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2566 คลิก https://www.ocean.co.th/tax
หากคำนวณภาษีแล้ว พบว่ายังมียอดภาษีที่ต้องจ่ายสูง สามารถทำประกันลดหย่อนภาษีได้ โดย OCEAN LIFE ไทยสมุทร ขอแนะนำ โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5 จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต
- รับความคุ้มครองชีวิตสูงสุด 510% ระหว่างปีกรมธรรม์ที่ 5-6
- รับเงินคืน 20% ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-6 และ 100% ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 7-9
- รวมผลประโยชน์ตลอดสัญญาสูงถึง 560%
- เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สูงสุด 100,000 บาท
ข้อควรทราบ :
- % หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
- ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- เบี้ยประกันชีวิต สามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
- ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิตไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทนำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิตให้กรมสรรพากร
การนำส่งเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยการที่ตัวแทนประกันชีวิตมาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็นการให้บริการเท่านั้น
ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม
อ้างอิง :
https://efiling.rd.go.th
กรมสรรพากร 1, 2
เอกสารประกอบการสมัครใช้บริการยื่นแบบฯ และชำระภาษีผ่านอินเทอร์เน็ต