ทำความรู้จักกับประกันออมทรัพย์ เพื่อเตรียมพร้อมกับการยื่นภาษีสำหรับปี 2567 พร้อมตัวอย่างประกันลดหย่อนภาษีที่เหมาะกับคน 2 แบบ 2 สไตล์
ประกันออมทรัพย์ คืออะไร
อาจถูกเรียกว่า ประกันสะสมทรัพย์ หรือประกันเงินออม เป็นการประกันชีวิตที่บริษัทจะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย เมื่อมีชีวิตอยู่ครบกำหนดสัญญา หรือจ่ายเงินเอาประกันภัย ให้แก่ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตลงภายในระยะเวลาประกันภัย การประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ เป็นส่วนผสมของการคุ้มครองชีวิตและการออมทรัพย์ เป็นการออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต ส่วนของการออมทรัพย์ คือส่วนที่ผู้เอาประกันภัยได้รับคืนเมื่อสัญญาครบกำหนด
เช่น ประกันโอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ รีเทิร์น 10/5 เป็นประกันที่ผู้เอาประกันภัยต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย 5 ปี แต่คุ้มครองถึง 10 ปี โดยหากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนครบ 10 ปี บริษัทจะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ แต่ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตก่อนครบกำหนด 10 ปี บริษัทจะจ่ายเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้รับผลประโยชน์
ประกันออมทรัพย์ เหมาะกับใคร
ประกันออมทรัพย์เหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต เนื่องจากการจ่ายเบี้ยประกันภัยนั้นมีลักษณะกึ่งบังคับ ที่ผู้เอาประกันภัยต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยตามระยะเวลาที่กำหนด จึงทำให้ผู้เอาประกันภัยมีเงินเก็บได้เป็นก้อนใหญ่ แต่หากผู้เอาประกันภัยไม่จ่ายเบี้ยประกันภัยหรือจ่ายไม่ครบ จะถือเป็นการสิ้นผลบังคับตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
นอกจากนั้น การทำประกันออมทรัพย์ยังได้ผลประโยชน์สูงกว่าการฝากแบบออมทรัพย์กับธนาคาร คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทความ ประกันเงินออม VS เงินฝากออมทรัพย์ ต่างกันอย่างไร
อย่าสับสน ประกันออมทรัพย์ VS ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
ประกันออมทรัพย์และประกันชีวิตแบบตลอดชีพมีส่วนที่คล้ายกัน เนื่องจากทั้ง 2 แบบให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต แต่ประกันออมทรัพย์มักมีระยะเวลาคุ้มครองสั้นกว่าประกันชีวิตแบบตลอดชีพ โดยประกันชีวิตแบบตลอดชีพมักมีระยะเวลาคุ้มครองจนถึงอายุ 90, 95 หรือ 99 ปี
ดังนั้น ประกันออมทรัพย์จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินจนได้เงินก้อนในช่วงระยะเวลาที่ไม่ยาวนานมากนัก เช่น 10 ปี, 15 ปี, 20 ปี เป็นต้น ในขณะที่ประกันชีวิตแบบตลอดชีพนั้น กว่าจะได้รับเงินคืน ต้องรอจนอายุถึง 90 ปีหรือมากกว่านั้น ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ จึงไม่สามารถนำเงินก้อนไปใช้ลงทุนต่อ หรือใช้เพื่อเป็นทุนการศึกษาของลูกหลานได้
ประกันสะสมทรัพย์ กี่ปีดี ลดหย่อนภาษีได้
หากต้องการลดหย่อนภาษี ควรทำประกันสะสมทรัพย์หรือประกันออมทรัพย์ที่ให้ความคุ้มครองอย่างน้อย 10 ปี ส่วนระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันชีวิตนั้น ไม่มีการกำหนดจำนวนปีขั้นต่ำ
ประกันออมทรัพย์ที่ไหนดี ลดหย่อนภาษีได้
ประกันออมทรัพย์จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต ที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้นั้น มีให้เลือกถึง 12 แบบด้วยกัน ทำให้สามารถเลือกระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยและระยะเวลาคุ้มครองที่ถูกใจได้ นอกจากนั้น แต่ละแบบยังกำหนดเงินคืนในจำนวนที่ต่างกันด้วย
ตัวอย่าง 1
นางสาว A อายุ 35 ปี ทำอาชีพรับราชการและได้รับเงินเดือน 28,000 บาท แต่นางสาว A มีภาระต้องเลี้ยงดูพ่อแม่เดือนละ 3,000 บาท อีกทั้งยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเองทั้งหมด เช่น ค่าเดินทาง ค่าหอพัก แต่นางสาว A ก็ต้องการเริ่มต้นเก็บออมเงินเพื่อวัยเกษียณ และต้องการลดหย่อนภาษีด้วย
ประกันสะสมทรัพย์ที่เหมาะกับนางสาว A เช่น ประกันออมทรัพย์สบายชัวร์ ที่มีระยะเวลาจ่ายเบี้ยประกันภัย 15 ปี แต่คุ้มครองถึง 25 ปี หากนางสาว A เลือกจำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท จะต้องชำระเบี้ยประกันภัยรายปี 9,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่สูงเกินไปนักสำหรับนางสาว A ที่มีภาระค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ
ตัวอย่าง 2
นาย B อายุ 30 ปี ทำอาชีพนักถ่ายภาพอิสระ มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 80,000 - 120,000 บาท นาย B แต่งงานแล้วและมีบุตร 1 คนอายุ 3 ปี โดยที่ภรรยาของนาย B เป็นผู้มีรายได้ นอกจากภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุตรแล้ว นาย B ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายด้านอื่นอีกเลย นาย B จึงต้องการเก็บออมเงินเพื่อนำไปลงทุนสำหรับซื้ออุปกรณ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพในอนาคต และต้องการลดหย่อนภาษีด้วย
ประกันสะสมทรัพย์ที่เหมาะกับนาย B เช่น ประกันโอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5 ที่มีระยะเวลาจ่ายเบี้ยประกันภัย 5 ปี แต่คุ้มครอง 10 ปี พร้อมให้เงินคืนสูงตั้งแต่ปีแรก ทำให้นาย B สามารถนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนต่อได้ หากนาย B เลือกจำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท จะต้องชำระเบี้ยประกันภัยรายปี 100,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่นาย B สามารถชำระได้ เนื่องจากนาย B มีรายได้ต่อเดือนค่อนข้างสูง และมีภาระแค่เฉพาะค่าใช้จ่ายบุตรแต่เพียงอย่างเดียว
ตัวช่วยลดหย่อนภาษีที่น่าสนใจ ลดหย่อนได้ 1 แสน ไม่ต้องรอนาน 8 ปี
ไม่ต้องเสี่ยงกับความผันผวนของตลาด ทำประกัน โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5
ข้อควรทราบ :
- % หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไข และหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
- ความคุ้มครอง และการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
- ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิตไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทนำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิตภัยให้กรมสรรพากร
- การนำส่งเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยการที่ตัวแทนประกันชีวิตมาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็นการให้บริการเท่านั้น
- ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้งเมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม
อ้างอิง :
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)