ประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ แตกต่างจากแบบประกันชีวิตทั่วไปอย่างไร

ใครที่กำลังขอกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัย อาจได้ยินคำว่าประกันคุ้มครองสินเชื่อ MRTA จากเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าประกันคุ้มครองสินเชื่อ MRTA นั้นให้ความคุ้มครองแบบไหน บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักประกันคุ้มครองสินเชื่อ MRTA ว่าแตกต่างจากประกันชีวิตทั่วไปอย่างไร พร้อมความคุ้มค่าจากผลประโยชน์และความคุ้มครองที่ได้รับ

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อคืออะไร ประกัน MRTA (Mortgage Reducing Term Assurance) หรือประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงให้กับผู้กู้ในช่วงระยะเวลาที่ต้องผ่อนสินเชื่อ 

ประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อเหมาะสำหรับผู้ที่หารายได้หลักในการผ่อนชำระหนี้สินให้กับครอบครัว หากเกิดเหตุที่ทำให้ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายผลประโยชน์ให้กับผู้รับประโยชน์ลำดับที่ 1 หรือธนาคารผู้ให้สินเชื่อกับผู้เอาประกันภัยก่อน ดังนั้นหากผลประโยชน์การเสียชีวิตมีมากกว่าหนี้สินคงเหลือ บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายผลประโยชน์ส่วนต่างนั้นกับผู้รับประโยชน์ลำดับถัดไป ทำให้ครอบครัว (พ่อ แม่ สามี ภารยา คู่สมรส คู่ชีวิต (LGBTQ+) บุตร ธิดา หรือทายาท) สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ โดยไม่ต้องกังวลภาระหนี้สินของผู้เสียชีวิต

ประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ แตกต่างจากแบบประกันชีวิตทั่วไปอย่างไร

1. ความคุ้มครอง

ประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ความคุ้มครองจะลดลงตามระยะเวลา แต่ประกันชีวิตทั่วไปความคุ้มครองจะคงที่หรือปรับเพิ่มขึ้นตามระยะเวลา เนื่องจากประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อนั้นจะให้ความคุ้มครองที่สอดคล้องกับระยะเวลาการชำระหนี้ หรือวงเงินหนี้สินคงเหลือ ณ เวลานั้นๆ ภายใต้เงื่อนไขดอกเบี้ยและการชำระหนี้สินที่สม่ำเสมอตามงวดการผ่อนชำระเงินกู้ของผู้เอาประกันภัย

ประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อนั้นเน้นให้ความคุ้มครองชีวิตเป็นสำคัญ ไม่มีเงินคืนระหว่างสัญญา และไม่มีเงินครบกำหนดสัญญา ดังนั้นผู้เอาประกันภัยจะชำระเบี้ยประกันภัยที่ต่ำกว่าแบบประกันชีวิตทั่วไปที่มีเงินคืนระหว่างสัญญา หรือมีเงินครบกำหนดสัญญา และไม่สามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพแนบได้ โดยเบี้ยประกันภัยสำหรับความคุ้มครองชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี กรณีที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ภายใต้เงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด

2. ระยะเวลาความคุ้มครองและระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย

ประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อสามารถเลือกระยะเวลาความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 1 ปี สูงสุด 30 ปี แต่ประกันชีวิตทั่วไปความคุ้มครองสูงสุดจะเป็นแบบตลอดชีพ เช่น คุ้มครองจนถึงอายุครบ 99 ปี เป็นต้น ในส่วนของระยะเวลาชำระเบี้ยประประกันภัย MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อจะเป็นแบบชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียวโดยให้ความคุ้มครองตามระยะเวลาที่เลือก แต่ประกันชีวิตทั่วไปสามารถเลือกระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยได้ เช่น ชำระเบี้ยประกันภัยสูงสุดจนถึงอายุครบ 99 ปี เป็นต้น

3. จำนวนเงินเอาประกันภัย

ประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ สามารถเลือกวงเงินความคุ้มครอง (จำนวนเงินเอาประกันภัย หรือทุนประกันภัย) ที่ต่ำกว่าภาระหนี้สินที่มีได้ แต่หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตครอบครัวจะมีภาระที่ต้องรับผิดชอบชำระหนี้สินส่วนต่างกับธนาคารผู้ให้สินเชื่อต่อไป

4. เบี้ยประกันภัย

ประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อเบี้ยประกันภัยจะแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับจำนวนเงินเอาประกันภัย ระยะเวลาความคุ้มครอง เพศ อายุ หรืออาชีพของผู้ขอเอาประกันภัย (ผู้ขอทำประกัน / ผู้สมัครทำประกัน) 

ประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ มีข้อสังเกตุดังนี้หากวงเงินความคุ้มครองที่เท่ากัน ระยะเวลาความคุ้มครองที่เท่ากัน อายุที่เท่ากัน โดยทั่วไปแล้วประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อสำหรับเพศหญิง (ผู้หญิง) จะมีเบี้ยประกันภัยที่ถูกกว่าเพศชาย (ผู้ชาย)

เงื่อนไขการรับประกันภัย 

ประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อมีเงื่อนไขในการพิจารณารับประกันภัย โดยพิจารณาจากการถามคำถามสุขภาพ สำหรับการตรวจสุขภาพหรือไม่นั้นจะเป็นไปตามเงื่อนไขและกฎเกณฑ์การพิจารณารับประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต

ในกรณีที่การกู้ขอสินเชื่อร่วมกันมากกว่า 1 คน ก็สามารถซื้อประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อได้ทุกคน หรือเลือกซื้อประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อเพียงบางคนก็ได้

ซึ่งประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อสามารถขอเอาประกันภัยพร้อมกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (บ้านเดี่ยว / บ้านแฝด / ทาวน์เฮ้าส์ / ทาวน์โฮม / คอนโด / ห้องชุด) สินเชื่อบ้านใหม่ สินเชื่อบ้านมือสอง สินเชื่อรถยนต์ใหม่ สินเชื่อรถยนต์มือสอง หรือสินเชื่อรีไฟแนนซ์ (สินเชื่อ Refinance) ทุกเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หรืออัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจากธนาคารผู้ให้สินเชื่อ สำหรับผู้ได้รับอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว (เริ่มผ่อนชำระเงินกู้สินเชื่อแล้ว) สามารถขอทำประกันประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ได้

ข้อดีของการเลือกทำประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ 

ประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อสามารถเลือกระยะเวลาความคุ้มครองได้ด้วยตนเองตั้งแต่ 1 ปี สูงสุด 30 ปี และเลือกสามารถวงเงินความคุ้มครองที่เหมาะสมได้ด้วย ทั้งนี้สูงสุดไม่เกินภาระหนี้ที่มี เพื่อนำข้อมูลมาเปรียบเทียบความแตกต่างของเบี้ยประกันภัยก่อนการตัดสินใจระหว่างการทำประกันออนไลน์ด้วยตัวเองหรือการทำประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อผ่านทางเลือกอื่นๆ ทั้งนี้การทำประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์สามารถชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต (Credit Card) จากทุกธนาคารได้ด้วย ทั้งนี้เพื่อความสะดวกสบายให้กับผู้ขอเอาประกันภัย

ประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อสามารถเลือกซื้อได้ผ่านธนาคารผู้ให้สินเชื่อ โดยปัจจุบันสามารถเลือกซื้อประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อได้ด้วยตัวเอง หรือคำนวณเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยของประกัน MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (แบบประกันคุ้มครองสินเชื่อเพื่อประชาชน) ด้วยตัวเองได้เองง่ายๆ คลิก

ประกันสินเชื่อบ้าน MRTA ประกันคุ้มครองสินเชื่อเพื่อประชาชน สำหรับที่อยู่อาศัย 

92%* ของลูกค้าพึงพอใจ "ชอบใจ" เพราะวางแผนคุ้มครองสั้น - ยาว เลือกเองได้ สามารถเลือกซื้อได้ตามวัตถุประสงค์ของการซื้อบ้าน ลดหย่อนภาษีได้ 10 ปี หรือรีไฟแนนซ์ 3 ปี 

"คุ้มค่าสำหรับลูกค้าฉลาดเลือก"

• คุ้มครองทั้งกรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
• ทำเอง เบี้ยประกันภัยถูกกว่าทางเลือกอื่น
• เลือกระยะเวลาคุ้มครองได้เอง
• ลดหย่อนภาษีได้ สำหรับกรมธรรม์ที่มีระยะเวลาเอาประภัยตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป 
• ซื้อง่าย ผ่านออนไลน์

ข้อควรทราบ:

*ผลการวิจัยการรับรู้และความพึงพอใจ ในการให้บริการ กลุ่มลูกค้าแบบประกัน คุ้มครองสินเชื่อเพื่อประชาชน สำหรับที่อยู่อาศัย กับ OCEAN LIFE ไทยสมุทรฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 - 2560
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
- ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิตหรือเบี้ยประกันสุขภาพ (ถ้ามี) ไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทนำส่งข้อมูลเบี้ยประกันภัยให้กรมสรรพากร
- การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
- ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์ประกันภัยแล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม