การออมเงินถือเป็นหัวใจสำคัญในการวางแผนการเงินส่วนบุคคล นอกจากเงินฝากออมทรัพย์กับธนาคารพาณิชย์แล้ว การออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต ที่โดยทั่วไปมักจะเรียกกันว่า “ประกันออมทรัพย์” “ประกันสะสมทรัพย์” หรือ“ประกันเงินออม” ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะการออมเงินทั้งสองรูปแบบที่กล่าวมาต่างก็ช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินได้ แต่แม้ว่าประกันเงินออมและเงินฝากออมทรัพย์จะมีชื่อคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีลักษณะและประโยชน์ที่แตกต่างกันมาก ในบทความนี้ OCEAN LIFE ไทยสมุทร จึงอยากพาทุกท่านไปรู้จักประกันเงินออมและเงินฝากออมทรัพย์ ให้มากขึ้น พร้อมความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ทั้งสองประเภท
ประกันออมทรัพย์ ประกันสะสมทรัพย์ หรือประกันเงินออม คืออะไร
ประกันออมทรัพย์ หรือประกันสะสมทรัพย์ หรือประกันเงินออม เป็นชื่อเรียกโดยทั่วไปของประกันชีวิต แบบสะสมทรัพย์ ที่ให้ประโยชน์ทั้งในส่วนของการคุ้มครองชีวิต และการออมทรัพย์หรือออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต มีเงินก้อนในอนาคตโดยเป็นการประกันชีวิตที่บริษัทจะจ่ายเงินครบกำหนดสัญญาให้แก่ผู้เอาประกันภัย เมื่อมีชีวิตอยู่ครบกำหนดสัญญา หรือจ่ายเงินสินไหมทดแทนให้แก่ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตลงภายในระยะเวลาเอาประกันภัยตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ เช่น ประกันเงินออม โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5 กำหนดระยะเวลาเอาประกันภัย 10 ปี เป็นต้น
ประกันประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ต้องการสะสมทรัพย์ หรือออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต มีเงินก้อนไว้ใช้ในอนาคตเช่น เป็นทุนการศึกษาบุตร เป็นเงินลงทุนในอนาคต เป็นต้น
เงินฝากแบบออมทรัพย์ คืออะไร
เงินฝากแบบออมทรัพย์ เป็นเงินที่ฝากไว้ในบัญชีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ที่มักไม่กำหนดระยะเวลาและจำนวนครั้งในการฝากถอน อีกทั้งยังกำหนดเงินฝากขั้นต่ำไว้ไม่สูงนัก แต่ก็มีผลตอบแทน (อัตราดอกเบี้ย) ที่ค่อนข้างต่ำ
บัญชีประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝากและถอนเงินในระยะสั้น ๆ มีสภาพคล่องสูง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น รับโอนเงินเดือน ชำระค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น โดยเงินฝากประเภทนี้สามารถใช้ร่วมกับบัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต และระบบ Mobile banking ได้
ความแตกต่างระหว่างประกันเงินออม และเงินฝากออมทรัพย์
- ผลประโยชน์
ประกันเงินออมมักมีเงินคืนให้เป็นงวด ในระหว่างสัญญา เช่น ราย 3 ปี รายปี เป็นต้น โดยกำหนดเป็นร้อยละ เช่น ประกันโอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5 มีเงินคืนร้อยละ 20 ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-6 และร้อยละ 100 ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 7-9 แตกต่างกับเงินฝากออมทรัพย์ที่มีผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย โดยอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด - สูงสุดของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศมักจะอยู่ที่ร้อยละ 0.10 - 2.00
- ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต
สำหรับประกันเงินออม เมื่อผู้เอาประกันภัยถึงแก่กรรมในช่วงระยะเวลาเอาประกันภัย จะได้รับผลประโยชน์กรณีเสียชีวิตตามที่ได้กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ในขณะที่การฝากเงินแบบออมทรัพย์กับธนาคารพาณิชย์นั้นไม่มีผลประโยชน์กรณีเสียชีวิตเลย
- การลดหย่อนภาษี
ผู้เอาประกันภัย สามารถนำค่าเบี้ยประกันภัยไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุด 100,000 บาท ในขณะที่การฝากเงินออมทรัพย์กับธนาคารพาณิชย์นั้นไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ฝากเงินจนได้ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ มากกว่า 20,000 บาทต่อปี จะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15%
- ระยะเวลาและสภาพคล่อง
ประกันเงินออมจะกำหนดระยะเวลาเอาประกันภัยไว้ เช่น ประกันโอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5 กำหนดระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปี และระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 5 ปี เป็นต้น อีกทั้งยังมีสภาพคล่องต่ำ เนื่องจากไม่สามารถถอนออกมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ ต้องรอครบกำหนดระยะเวลาประกันเอาภัย หากขอเวนคืนกรมธรรม์ก็อาจได้เงินน้อยกว่าเบี้ยประกันภัยที่ชำระ หรือหากกู้ยืมเงินตามกรมธรรม์ประกันภัยก็อาจจะเสียดอกเบี้ยกู้ยืมเงิน ในขณะที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์นั้น ไม่มีการกำหนดระยะเวลา และมีสภาพคล่องสูง สามารถฝากและถอนได้ตลอดเวลา
ลักษณะด้านต่าง ๆ | ประกันเงินออม | เงินฝากออมทรัพย์ |
ผลประโยชน์ | มีเงินคืน | มีดอกเบี้ย |
ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต | ✓ | ☓ |
การลดหย่อนภาษี | ✓ | ☓ |
การกำหนดระยะเวลา | มีระยะเวลาเอาประกันภัย | ไม่มีการกำหนดระยะเวลาฝาก-ถอน |
สภาพคล่อง | ต่ำ | สูง |
จะเห็นได้ว่า ทั้งประกันเงินออม และเงินฝากออมทรัพย์ต่างก็มีข้อดีด้วยกันทั้งคู่ โดยเงินฝากออมทรัพย์นั้นมีสภาพคล่องสูง เหมาะกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เกือบทุกคนจึงมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์กันอยู่แล้ว ส่วนประกันเงินออมนั้นให้ผลประโยชน์ที่สูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ มีความคุ้มครองชีวิต และนำเบี้ยประกันไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ แต่หลาย ๆ คนอาจยังไม่ได้ทำประกันเงินออม ส่วนหนึ่งเพราะกังวลว่าจะต้องจ่ายเบี้ยนานหลายปี ดังนั้น OCEAN LIFE ไทยสมุทร จึงขอแนะนำประกันโอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5 ประกันเงินออม ที่จ่ายเบี้ยสั้น ๆ แค่ 5 ปี แต่ความคุ้มครองชีวิตยาวถึง 10 ปี !
ข้อควรทราบ :
- % หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
- ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- เบี้ยประกันชีวิต สามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
- ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิตไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทนำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิตให้กรมสรรพากร
- การนำส่งเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยการที่ตัวแทนประกันชีวิตมาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็นการให้บริการเท่านั้น
- ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม
อ้างอิง :