ดิจิทัล วอลเล็ต (กระเป๋าเงินดิจิทัล) คืออะไร มีกี่แบบ

ดิจิทัล วอลเล็จ

 

คำว่า “ดิจิทัล วอลเล็ต” หรือ กระเป๋าเงินดิจิทัล กลายเป็นกระแสในประเทศไทย เพราะมีความเกี่ยวข้องกับนโยบายของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ดิจิทัล วอลเล็ต ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังไม่ได้รู้จักกันอย่างแพร่หลายนัก วันนี้ OCEAN LIFE ไทยสมุทรจึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักดิจิทัล วอลเล็ตกันให้มากขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

 

ดิจิทัล วอลเล็ต หรือ กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital wallet) คืออะไร

คือ ตัวกลางที่ทำหน้าที่เสมือนกระเป๋าเงิน ใช้ในการแลกเปลี่ยน การชำระเงินต่าง ๆ ทั้งแบบใช้จ่ายโดยตรงในชีวิตประจำวัน หรือการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ โดยมีการนำเอาระบบเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) มาปรับใช้ร่วมด้วย เพื่อให้ใช้งานได้ครอบคลุมไปถึงสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin หรือสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ (Cryptocurrency) รวมถึงสามารถรองรับการใช้งานตามเงื่อนไขของสกุลเงินนั้น ๆ ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามคำว่า ดิจิทัล วอลเล็ต นั้นถูกใช้ในบริบทและความหมายที่หลากหลาย โดยในต่างประเทศจะใช้คำว่าดิจิทัล วอลเล็ต สำหรับการชำระค่าสินค้าและบริการ และการโอนเงินระหว่างบุคคลแบบออนไลน์ แต่ต้องมีการผูกกับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เช่น PayPal, Amazon Pay เป็นต้น แต่หากเป็นระบบที่ครอบคลุมสินทรัพย์และสกุลเงินดิจิทัล จะใช้คำว่าคริปโต วอลเล็ต (Cryto wallet) แทน

 

ดิจิทัล วอลเล็ต มีกี่ประเภท

ดิจิทัล วอลเล็ต แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามประเภทของการเก็บ Private Key ซึ่งก็คือกุญแจสำหรับเข้าสู่ดิจิทัล วอลเล็ต โดยทำหน้าที่เสมือนรหัสผ่านนั่นเอง

1. Hot wallets

คือ ดิจิทัล วอลเล็ตที่ Private Key มักถูกเก็บโดยผู้ให้บริการ เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ต ใช้งานสะดวก แบ่งออกเป็น Soft wallets และ Web-based wallets โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • Soft wallets เป็นระบบที่มักไม่คิดค่าบริการหรือมีค่าบริการน้อยมาก เข้าถึงได้ในรูปแบบแอปพลิเคชัน หรือโปรแกรมต่าง ๆ ที่สามารถดาวน์โหลดไว้ในสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ อย่างคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้งานผ่านบราวเซอร์ในรูปแบบ Plugin หรือรูปแบบอื่น ๆ ได้

    แม้ว่า Soft wallets จะเป็นดิจิทัล วอลเล็ตประเภท Hot wallets ก็ตาม แต่เจ้าของวอลเล็ตยังมีสิทธิ์ในการควบคุมสินทรัพย์และ Private Key ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม Soft wallets มีความปลอดภัยในระดับปานกลาง เนื่องจากข้อมูลของผู้ใช้งานยังอยู่บนอินเทอร์เน็ต จึงอาจถูกเจาะเข้าระบบเพื่อโจรกรรมข้อมูลได้
     
  • Web-based wallets เป็นระบบที่มักไม่คิดค่าบริการหรือมีค่าบริการน้อยมาก เข้าถึงได้ผ่านทางเว็บไซต์จากอุปกรณ์ใดก็ได้ โดยไม่ต้องดาวน์โหลด จึงทำให้ใช้งานสะดวกรวดเร็วมาก แต่กลับมีความปลอดภัยในระดับที่ต่ำกว่าวอลเล็ตประเภทอื่น ๆ นอกจากข้อมูลของผู้ใช้งานจะอยู่บนอินเทอร์เน็ตแล้ว Private Key ยังถูกควบคุมดูแลโดยเจ้าของแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ผู้ให้บริการ ที่อาจมีความหละหลวม จนเปิดโอกาสให้เกิดการโจรกรรมข้อมูล หรือผู้ดูแลแพลตฟอร์มเองอาจฉ้อโกงนำข้อมูลต่าง ๆ ไปใช้หาผลประโยชน์ส่วนตัวอื่น ๆ ได้

 

2. Cold wallets

คือ ดิจิทัล วอลเล็ตที่ Private Key จะถูกเก็บไว้กับตัวเจ้าของวอลเล็ตเอง โดยอยู่นอกเหนือเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จึงมีความปลอดภัยสูง เพราะนอกจากผู้ใช้งานแล้ว จะไม่มีผู้อื่นล่วงรู้ Private Key เลย 

Cold wallets แบ่งออกเป็น Hardware wallets และ Paper wallets โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • Hardware wallets คือวอลเล็ตที่อยู่ในรูปแบบของอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการจัดเก็บ Private Key ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เช่น USB, เครื่องคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน เป็นต้น แม้ว่าผู้ใช้งานจะสามารถเชื่อมต่อ Hardware wallets กับอินเทอร์เน็ตเพื่อส่งหรือรับสินทรัพย์ได้ แต่สินทรัพย์ทั้งหมดจะอยู่ในพื้นที่จัดเก็บของอุปกรณ์ดังกล่าว จึงมีความปลอดภัยสูง แต่อาจใช้งานได้ไม่สะดวกนัก อีกทั้งยังมีราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับวอลเล็ตประเภทอื่น ๆ
     
  • Paper wallets คือ การจัดเก็บ Private Key ในรูปแบบกระดาษ ซึ่งอาจมี QR Code เพื่อให้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตในการส่งหรือรับสินทรัพย์ได้ อย่างไรก็ตาม Paper wallets อาจใช้งานได้ไม่สะดวกนั้น จัดเก็บยาก แต่มีข้อดีคือไม่มีค่าใช้จ่าย

ดิจิทัล วอลเล็ตนั้นมีหลายประเภท โดยแต่ละแบบต่างก็มีข้อดีแตกต่างกันไป ผู้ที่สนใจและกำลังเริ่มต้นลงทุนในสกุลเงินหรือสินทรัพย์ดิจิทัล ควรศึกษาประเภท และความน่าเชื่อถือของผู้ดูแลแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน

จะเห็นได้ว่าการลงทุนในสกุลเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น มีความเสี่ยงตั้งแต่ก้าวแรก ซึ่งก็คือการเลือกประเภทของวอลเล็ต และผู้ดูแลที่เชื่อถือได้ นักลงทุนจึงควรลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง รวมถึงเก็บออมเงินด้วย โดย OCEAN LIFE ไทยสมุทร ขอแนะนำประกันสะสมทรัพย์ โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5 ประกันสะสมทรัพย์ ชำระเบี้ยเพียง 5 ปี แต่คุ้มครองชีวิตนาน 10 ปี ที่ให้เงินคืนสูงตั้งแต่ปีแรก เพื่อนำไปลงทุนต่อได้อย่างไม่มีสะดุด

ประกันสะสมทรัพย์ โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5

  • รับเงินคืนสูง ปีที่ 1-6 ปีละ 20% และรับเต็มๆ ปีที่ 7 – 9 ปีละ 100% โดยปีสุดท้ายรับอีก 110%
  • รวมผลประโยชน์ตลอดสัญญาสูงถึง 560%
  • ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท

ซื้อประกันลดหย่อนภาษีผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่าย ๆ คลิก 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2207 8844

 

ข้อควรทราบ :

  • % หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไข และหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
  • ความคุ้มครอง และการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
  • เบี้ยประกันชีวิต สามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
  • ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิต ไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทนำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิตภัยให้กรมสรรพากร
  • การนำส่งเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยการที่ตัวแทนประกันชีวิตมาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็นการให้บริการเท่านั้น
  • ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้งเมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม

อ้างอิง : 

Government of Canada
อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP)
Britannica Money

OCEAN CLUB APP ใช้ชีวิตดี๊ดี กับ OCHI COIN

OCEAN CLUB APP #HEALTHIVERSE

ฟีเจอร์ล่าสุด ให้คุณ TOP FORM ด้านสุขภาพ

QR Code Application
ดาวน์โหลดเลย
OCEAN CLUB APP

บอกข้อมูลสั้นๆ เกี่ยวกับตัวคุณ
เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

ฉันต้องการค้นหาเกี่ยวกับ