ส่วนใหญ่แล้วเวลาซื้อรถยนต์ เรามักจะเลือกซื้อเฉพาะประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองเวลาเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เท่านั้น แต่อาจไม่ได้นึกถึงประกันสินเชื่อรถยนต์ ที่เป็นตัวช่วยสำคัญในวันที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน วันนี้ เราจะพาไปรู้จักกับประกันสินเชื่อรถยนต์ ความคุ้มครอง ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ทำประกันประเภทนี้ รวมถึงการเลือกประกันสินเชื่อรถยนต์ที่เหมาะกับตนเอง
ประกันสินเชื่อรถยนต์ คืออะไร
ประกันสินเชื่อรถยนต์ หรือ ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อเพื่อประชาชน สำหรับรถยนต์ คือ กรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตหรือทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร เป็นจำนวนเท่ากับจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ลดลงตามงวดการผ่อนชำระ ซึ่งจะสอดคล้องกับจำนวนหนี้ที่เหลืออยู่
ประกันสินเชื่อรถยนต์มีระยะเวลาเอาประกันภัยคร่าว ๆ ตั้งแต่ 1- 8 ปี และชำระเบี้ยประกันภัยเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ประกันสินเชื่อรถยนต์ คุ้มครองอะไรบ้าง
ประกันสินเชื่อรถยนต์ คุ้มครอง 2 กรณีด้วยกัน ได้แก่
1. กรณีเสียชีวิต
บริษัทจะจ่ายจำนวนเงินผลประโยชน์เท่ากับจำนวนเงินเอาประกันภัยของเดือนที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต ตามจำนวนที่ได้ระบุไว้ในตารางแสดงจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ลดลงให้แก่ผู้รับประโยชน์หลัก ซึ่งก็คือสถาบันการเงินที่ได้ทำสินเชื่อรถยนต์ไว้นั่นเอง โดยจำนวนเงินดังกล่าวจะไม่เกินจำนวนหนี้ที่ผู้เอาประกันภัยค้างชำระอยู่กับผู้รับประโยชน์หลัก ณ เวลานั้น หากมีจำนวนเงินเอาประกันภัยเหลืออยู่ บริษัทจะจ่ายให้แก่ผู้รับประโยชน์รองตามที่ระบุไว้ในสัญญา
2. กรณีทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง คือ การทุพพลภาพถึงขนาดไม่สามารถประกอบหน้าที่การงานใด ๆ ในอาชีพ ประจำและอาชีพอื่น ๆ ได้โดยสิ้นเชิงตลอดไป เช่น การสูญเสียสายตาทั้งสองข้าง การสูญเสียมือและเท้าอย่างละ 1 ข้าง เป็นต้น โดยการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงนั้นต้องเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 180 วัน และ/หรือ มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ชัดเจน
สำหรับกรณีทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง บริษัทจะจ่ายให้แก่ผู้รับประโยชน์หลักแต่ไม่เกินจำนวนหนี้ที่ผู้เอาประกันภัยค้างชำระอยู่กับผู้รับประโยชน์หลักในขณะนั้น หากมีจำนวนเงินเอาประกันภัยเหลืออยู่ บริษัทจะจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัย และถือว่าสัญญาประกันสินเชื่อรถยนต์ดังกล่าวสิ้นผลบังคับทันที
ในปัจจุบัน ไม่ได้มีการบังคับทางกฎหมายให้ผู้ขอสินเชื่อรถยนต์ต้องทำประกันสินเชื่อรถยนต์แต่อย่างใด แต่หากผู้ขอสินเชื่อเลือกไม่ทำประกันสินเชื่อรถยนต์ จะต้องรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในกรณีที่ตนเองเสียชีวิต และกรณีทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง โดยความเสี่ยงดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่ที่ตัวผู้ขอสินเชื่อเท่านั้น แต่ยังถูกส่งต่อไปเป็น “ภาระ” ให้กับทายาท ไม่ว่าจะเป็นภาระทางการเงินที่ทายาทต้องผ่อนต่อ หรือภาระทางเวลา ที่ทายาทต้องจัดการขายรถยนต์ให้ได้ในตามจำนวนเงินที่ได้ทำสินเชื่อไว้กับสถาบันทางการเงิน ซึ่งในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคือง การขายรถยนต์อาจไม่ได้ทำได้ง่ายนัก จึงมีโอกาสที่ทายาทจะขายรถยนต์ได้ในราคาที่ต่ำ และต้องผ่อนชำระหนี้ที่เหลืออยู่ดี
นอกจากจะประกันสินเชื่อรถยนต์จะช่วยคุ้มครองกรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงแล้ว ยังสามารถนำเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณ์ที่กรมสรรพากรกำหนดได้ด้วย
เลือกประกันสินเชื่อรถยนต์อย่างไรดี
การเลือกทำประกันสินเชื่อรถยนต์ให้ได้เบี้ยประกันภัยในราคาที่พอเหมาะ ต้องคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
- อายุรับประกันภัย ยิ่งอายุของผู้ขอทำประกันสินเชื่อส่วนบุคคลมากเท่าไร ค่าเบี้ยประกันภัยจะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
- จำนวนเงินเอาประกันภัย ยิ่งกำหนดไว้สูง ค่าเบี้ยประกันภัยจะยิ่งสูงขึ้น
- ระยะเวลาเอาประกันภัย ยิ่งกำหนดระยะเวลานาน ยิ่งต้องเสียค่าเบี้ยประกันภัยสูงขึ้น
หากเป็นไปได้ ก่อนทำประกันสินเชื่อรถยนต์ทุกครั้ง ควรคำนวณเบี้ยประกันให้ดี เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักเลือกทำประกันภัยประเภทนี้พร้อม ๆ กับการดำเนินการซื้อ โอน หรือขอสินเชื่อรถยนต์ จึงอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายมากในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ
สำหรับผู้ที่สนใจประกันคุ้มครองสินเชื่อ เพื่อประชาชน สำหรับรถยนต์ จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร สามารถคำนวณเบี้ยประกันภัยออนไลน์ได้ผ่านทางเว็บไซต์ (รองรับทั้งคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ) โดยโปรแกรมคำนวณเบี้ยนี้ มีฟังก์ชันให้เราปรับเปลี่ยนจำนวนเงินเอาประกันภัย และระยะเวลาเอาประกันภัย จนได้เบี้ยประกันภัยที่ต้องชำระถูกใจ สบายกระเป๋า
ตัวอย่างโปรแกรมคำนวณเบี้ยประกันภัยจาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร
ประกันคุ้มครองสินเชื่อเพื่อประชาชน สำหรับรถยนต์ จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร
- สร้างหลักประกันให้คุณและคนข้างหลังไม่ต้องรับภาระหนี้สิน หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน
- คุ้มครองทั้งกรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
- ขอทำง่ายผ่านช่องทางออนไลน์
ข้อควรทราบ :
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
- ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- เบี้ยประกันภัยชีวิต/สุขภาพสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
- ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทนำส่งข้อมูลเบี้ยประกันสุขภาพให้กรมสรรพากร
- ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์ประกันภัยแล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม
ข้อมูลจาก :
https://www.oic.or.th/en/node/65074