เหตุผลหลัก ๆ ที่เราควรเก็บออมเงินตั้งแต่ยังอายุน้อย ๆ ไม่ใช่เพื่อการสร้างความมั่งคั่งในปัจจุบันแค่เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงช่วงวัยเกษียณที่อาจไม่มีรายได้แล้วด้วย บทความนี้จะมาแนะนำตัวช่วยที่เป็นส่วนสำคัญในการเก็บออมเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งในวัยเกษียณกัน
ก่อนจะศึกษาเรื่องตัวช่วยต่าง ๆ อย่าลืมคำนวณรายจ่ายของตัวเองในแต่ละเดือน เพื่อให้รู้ว่าเมื่อเกษียณอายุแล้ว เราจะใช้เงินในแต่ละเดือนมากน้อยแค่ไหน จะได้ใช้ตัวช่วยได้อย่างเหมาะสม
กลุ่มตัวช่วยออมเงินก้อน
1. ประกันสะสมทรัพย์
ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท
การออมเงินกับประกันสะสมทรัพย์นั้นเข้าใจค่อนข้างง่าย เพราะจะมีการกำหนดระยะเวลาในการชำระเบี้ย ระยะเวลาที่ประกันให้ความคุ้มครองชีวิต และจำนวนเงินคืนที่แน่นอน อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่น สามารถเลือกทำได้ทั้งแบบชำระเบี้ยครั้งเดียว ชำระเบี้ยระยะสั้นไม่เกิน 10 ปี รวมถึงระยาวที่ต้องชำระเบี้ยมากกว่า 10 ปีด้วย
เคล็ดลับในการใช้ประกันสะสมทรัพย์เป็นตัวช่วยในการออมเงิน(1) เพื่อความมั่งคั่งในวัยเกษียณ โดยเฉพาะผู้ที่ทำประกันสะสมทรัพย์ตั้งแต่ยังอายุน้อย หรือเลือกทำประกันสะสมทรัพย์ที่ความคุ้มครองไม่ยาวนานมากนัก ไม่ว่าจะได้เงินครบกำหนดสัญญาเมื่อสิ้นสุดกรมธรรม์ หรือเงินคืนระหว่างสัญญาก็ตาม ควรนำเงินเหล่านี้มาทำประกันสะสมทรัพย์ฉบับใหม่ไปเรื่อย ๆ โดยคำนวณให้วันครบกำหนดสัญญาของประกันสะสมทรัพย์ฉบับสุดท้ายใกล้เคียงกับช่วงที่ต้องการเกษียณอายุ เพื่อรับเงินก้อนในช่วงเวลาดังกล่าว
ส่วนใครที่ต้องการลดหย่อนภาษี ต้องเลือกประกันสะสมทรัพย์ที่มีระยะเวลาคุ้มครองอย่างน้อย 10 ปีด้วย
ทำประกันสะสมทรัพย์โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5 กับ OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต
- ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 5 ปี
- ระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปี
- รับเงินคืนสูง 20% ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-6
- รับเงินคืนสูง 100% ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 7-9
- รับเงินครบกำหนดสัญญา 140% ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10
2. กองทุนรวม
กองทุนรวมที่ลดหย่อนภาษีได้ในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท สามารถใช้เป็นตัวช่วยในการออมเงินเพื่อเกษียณอายุได้ดังนี้
- กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund หรือ SSF)
ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท(2)
เป็นกองทุนที่เมื่อลงทุนในแต่ละครั้ง จะต้องถือครองเงินลงทุนจำนวนนั้นอย่างน้อย 10 ปี ดังนั้น ผู้ที่ต้องการเก็บออมเงินเพื่อการเกษียณ จึงควรถือครองจนครบกำหนดแล้วจึงขาย จากนั้นนำเงินต้นและกำไรที่ได้มาลงทุนต่อ จนกว่าจะถึงช่วงที่เกษียณอายุ เพราะหากขายก่อนกำหนด ต้องคืนภาษีที่เคยได้รับการลดหย่อนภาษี จากปีที่ซื้อหน่วยลงทุนนั้น พร้อมเงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือน นับตั้งแต่ พ้นกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีของปีที่ลงทุน จนถึงเดือนที่นำเงินภาษีไปชำระคืนสรรพากร
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund หรือ RMF)
ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท(2)
เป็นกองทุนที่ต้องลงทุนต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี (หากไม่สามารถทำได้ สามารถเว้นได้ไม่เกิน 1 ปี แต่ปีที่ไม่ได้ลงทุนจะไม่ถูกนับอายุ) และสามารถขายคืนได้หลังจากอายุ 55 ปี ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการขายคืนแล้วนำไปลงทุนต่อก่อนถึงวัยเกษียณเหมือนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพราะตัวกองทุน RMF บังคับให้ผู้ซื้อถือหน่วยลงทุนจนถึงอายุ 55 ปีนั่นเอง แต่หากมีการขายคืนก่อนกำหนดหรือถือครองผิดเงื่อนไข ก็จะมีบทลงโทษทางภาษี ซึ่งอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ (ลิงก์กับบทความ ประกันบำนาญ กับ RMF ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนเหมาะกับเรา)
- กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG Fund หรือ ThaiESG)
ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
เป็นกองทุนที่ผู้ที่มีรายได้สูงมักให้ความสนใจ เพราะต้องการวงเงินในการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม โดยต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะสามารถขายได้ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการเก็บออมเพื่อการเกษียณ สามารถใช้วิธีเดียวกับการลงทุนในกองทุน SSF ได้เลย แต่ถ้าถือครองผิดเงื่อนไขหรือขายคืนก่อนกำหนด จะมีบทลงโทษทางภาษีเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทั้งกองทุน SSF, RMF และ ThaiESG ต่างก็มีความเสี่ยงในการลงทุนที่ขึ้นอยู่กับความผันผวนของตลาด จึงมีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนสูงหรือขาดทุนก็ได้ ดังนั้น ควรศึกษาระดับความเสี่ยงของแต่ละกองทุนก่อนการลงทุน เพื่อให้ได้เงินออมเพื่อการเกษียณอายุในจำนวนที่ต้องการ ไม่เสี่ยงกับการขาดทุนจนกระทบกับเงินต้นมากนัก และควรทำประกันสะสมทรัพย์ไว้ด้วย เพราะเป็นตัวช่วยที่ให้ผลประโยชน์และความคุ้มครองที่แน่นอน ไม่ต้องเสี่ยงกับความผันผวนของตลาด
กลุ่มตัวช่วยด้านค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
1. ประกันบำนาญ
ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท(2)
จุดเด่นสำคัญของประกันบำนาญ คือ ให้ความคุ้มครองชีวิตของผู้เอาประกันภัยในระหว่างที่ยังมีรายได้อยู่ และจ่ายเงินบำนาญให้ผู้เอาประกันภัยไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณอายุแล้วอย่างสม่ำเสมอเป็นงวด ๆ เช่น ผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 38 ปี ทำประกันบำนาญรีไทร์ เรดดี้ 85/5 โดยจ่ายเบี้ยประกันภัย 5 ปี จำนวนปีละ 36,940 บาท ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินบำนาญปีละ 15,000 บาท (15% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท) ตั้งแต่อายุ 60-85 ปี เป็นต้น
ทำประกันบำนาญรีไทร์ เรดดี้ 85/5 กับ OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต
ถ้าต้องการเงินบำนาญต่องวดเพิ่มมากขึ้น สามารถเลือกทำประกันบำนาญที่มีจำนวนเงินเอาประกันภัยสูงกว่าตัวอย่างข้างต้นได้ แต่เบี้ยประกันภัยก็จะสูงขึ้นด้วย หากกังวลว่าจะจ่ายเบี้ยประกันบำนาญไม่ไหว สามารถเลือกทำประกันบำนาญรีไทร์ เรดดี้ 85/60 ที่จ่ายเบี้ยประกันภัยจนถึงอายุ 60 ปี จากตัวอย่างดังกล่าว หากผู้เอาประกันภัยเพิ่มเงินเอาประกันภัยเป็น 300,000 บาท จะจ่ายเบี้ยประกันภัยเป็นเวลา 23 ปี ปีละ 29,220 บาท และได้รับเงินบำนาญปีละ 45,000 บาท ตั้งแต่อายุ 60-85 ปี เป็นต้น
ทำประกันบำนาญรีไทร์ เรดดี้ 85/55 กับ OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต
2. ประกันสังคม
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 9,000 บาท
หากต้องการได้รับเงินบำนาญรายเดือน จะต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือ 39 และจ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 180 เดือน จะได้รับเงินบำนาญชราภาพในอัตรา 20% ของอัตราค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง ในกรณีที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ค่าจ้างที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบต้องไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1,650 บาทและไม่เกิน 15,000 บาท ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 ค่าจ้างที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบเฉลี่ยสูงสุด 4,800 บาท
ในกรณีที่จ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน จะได้รับเงินบำนาญเพิ่มอีก 1.5% ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบทุก 12 เดือน เช่น ผู้ประกันตนมาตรา 33 ส่งเงินสมทบเป็นระยะเวลา 20 ปี จะได้รับเงินบำนาญอัตรา 27.5% ของอัตราค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง เป็นต้น
จะเห็นว่าตัวเลือกลดหย่อนภาษีหลายประเภท สามารถเป็นตัวช่วยในการออมเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งเพื่อวัยเกษียณได้ เพียงทำตามเคล็ดลับในบทความนี้
ข้อควรทราบ :
(1)เป็นการออมในรูปแบบประกันชีวิต
(2)ค่าลดหย่อนจากเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ค่าหน่วยลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน SSF และ RMF เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5 เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันไทยสมุทรออมสบาย 10/5
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการให้ตรวจสุขภาพ หรือขอเอกสารทางการแพทย์เพิ่มเติมเมื่อเห็นว่าจําเป็น
- ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
- ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิตไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทฯ นำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิตให้กรมสรรพากร
- การนำส่งเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยการที่ที่ปรึกษาประกันชีวิต (ตัวแทนประกันชีวิต) มาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็นการให้บริการเท่านั้น
- ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม
อ้างอิง :
https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/news/2567thai/news24_2567.pdf
https://www.rd.go.th/37392.html
https://www.rd.go.th/region/07/fileadmin/065/003_newsactivity/2565/guideline50_50.pdf